ระหว่างวันที่ 26 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศให้การต้อนรับนายเลอง กากู อาดอม (H.E. Mr. Léon Kacou Adom) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ การบูรณาการแอฟริกาและชาวโกตดิวัวร์ในต่างประเทศ สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ นำคณะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนร่วมเดินทางมาด้วย เป็นจำนวนทั้งสิ้น 57 คน และถือเป็นการเยือนครั้งแรกในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรอบ 59 ปี นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2509

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ในการหารือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ที่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือ 3 ด้าน ประกอบด้วยความมั่นคงทางอาหารความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงของมนุษย์ ให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนมีบทบาทนำ โดยมีภาครัฐเป็นผู้อำนวยความสะดวกและสนับสนุนในเชิงนโยบาย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการจัดทำความตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและบรรยากาศที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ ในโอกาสดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยและโกตดิวัวร์ในระหว่างการเยือน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ โกตดิวัวร์ เข้าร่วมเป็นแขกเกียรติยศในพิธีเปิด
สถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และงานสัมมนาธุรกิจโกตดิวัวร์ - ไทย (Côte d’Ivoire - Thailand Business Forum) จัดโดยสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ประจำประเทศไทย และผู้แทนภาคเอกชนโกตดิวัวร์เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดชลบุรี และพบหารือกับประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีฯ สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ในครั้งนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย - โกตดิวัวร์ ส่งเสริมโอกาส มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสที่ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 ในปี 2569