เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thai – Saudi Investment Forum ณ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน โดยมีนายคอลิด บิน อับดุลอะซีซ อัลฟาลิห์ (H.E. Mr. Khalid Abdulaziz Al-Falih) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบียร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดพิธีดังกล่าวด้วย

งาน Thai – Saudi Investment Forum จัดขึ้นโดยกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดเวทีในลักษณะนี้ขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ และให้ทั้งสองฝ่ายประสานกลยุทธ์การลงทุนที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศตามวิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0 และนโยบาย BCG ของไทย และวิสัยทัศน์ Saudi Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย และยังเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันอีกด้วย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแสดงความชื่นชมบทบาทและวิสัยทัศน์ของผู้นำของทั้งสองประเทศในความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย และเน้นย้ำถึงบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจอัจฉริยะที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ลดความเปราะบางและสนับสนุนความหลากหลายในสังคม เพื่อให้การดำเนินแผนงานร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ

งาน Thai – Saudi investment Forum ถือเป็นเวทีสำคัญที่ได้รับความเห็นและความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์การลงทุน การส่งเสริมการค้า และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันการลงทุนร่วมกันระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย และเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เจรจาธุรกิจการลงทุนร่วมกัน โดยมีคณะนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียและไทยเข้าร่วมกว่า 300 คน มีการจับคู่เจรจาธุรกิจมากกว่า 500 คู่ ในหลากหลายสาขาโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างภาคเอกชนไทยและซาอุดีอาระเบีย รวม 8 ฉบับ ในกลุ่มธุรกิจแปรรูปอาหาร ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม นับเป็นความพยายามร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างและเพิ่มโอกาสการลงทุนและธุรกิจระหว่างสองประเทศ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้ใช้โอกาสในการเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงาน Thai – Saudi investment Forum ในครั้งนี้ เยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electrical Vehicle : EV) และโรงงานผลิตแบตเตอรีสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ของบริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า อีกทั้งเยี่ยมชมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Thailand Sciences Park) ภายใต้การดูแลของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งได้นำเสนอนิทรรศการและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของไทยในสาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อม สาขาเวชภัณฑ์และสาธารณสุข และสาขาเกษตรกรรมและอาหาร

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา นับแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้มีการดำเนินการตามแผนยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกมิติ ซึ่งนำมาสู่การลงนามบันทึกความตกลง (MOU) ระหว่างภาครัฐและเอกชนของ 2 ประเทศ รวม 27 ฉบับ โดยมีความคืบหน้าด้านต่างๆ ดังนี้

- ด้านการค้า ซาอุดิอาระเบียสนใจที่จะร่วมลงทุนในภาคบริการและสุขภาพของไทย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมด้านทรัพยากรบุคคล แพทย์ พยาบาล ผู้ให้บริการ และระดับผู้บริหาร ซึ่งไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพสูง

- ด้านธุรกิจเทคโนโลยี มีการหารือถึงความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับ Telemedicine, Game, IOT Platform, AI โดยซาอุดิอาระเบียมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี 5G และพร้อมเชื่อมโยงศักยภาพด้านดังกล่าวร่วมกับภาคธุรกิจไทย

- ด้านการเกษตรและอาหาร คณะผู้แทนจากซาอุดิอาระเบียให้ความสนใจกับตลาดของอาหารฮาลาลแช่แข็ง และอาหารกระป๋องของไทย รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง และผลไม้ที่ไทยมีชื่อเสียงระดับโลก

- ด้านการลงทุน ซาอุดิอาระเบียกำลังพิจารณาให้ไทยเป็นอีกสถานที่เก็บน้ำมันดิบในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก ซึ่งไทยยินดีที่จะร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคความมั่นคงด้านพลังงานร่วมกับซาอุดิอาระเบีย นอกจากนี้ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) มีการเข้าไปลงทุนโดยเปิดสาขาแรกของ Amazon Café ในเมืองริยาด เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 150 สาขาภายใน 10 ปี ภาคธุรกิจวัสดุก่อสร้างและการก่อสร้าง ซาอุดิอาระเบียประกาศแผนการพัฒนาเมืองใหม่แห่งอนาคต ภายใต้ชื่อ “เดอะไลน์” มีความยาว 170 กิโลเมตร ถือส่วนหนึ่งของ Saudi Vision 2030 ซึ่งต้องการดึงดูดนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากทั่วโลก โดยกลุ่มสยามพิวรรธน์ ที่ได้รางวัลระดับโลกในการพัฒนาศูนย์การค้า อาทิ สยามพารากอน และไอคอนสยาม มีความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนในเมกะโปรเจคดังกล่าว

- ด้านความมั่นคงด้านอาหาร ซาอุดีอาระเบียกำลังลงทุนใน Smart Farming และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศ ซึ่งถือเป็นโอกาสของไทย ที่จะมีโอกาสยกระดับและขยายตลาดภาคเกษตรของไทย ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล ภาคการท่องเที่ยว ทั้ง 2 ประเทศต่างเห็นโอกาสที่จะยกระดับด้านการท่องเที่ยวและบริการร่วมกันให้มากขึ้น โดยประเทศไทยมีพื้นที่และความพร้อม ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ที่สามารถร่วมมือกับซาอุดิอาระเบียได้ในอนาคต

โดยการจัดงาน Thai – Saudi investment Forum ครั้งนี้ กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน มีความเห็นร่วมกันว่าจะเป็นการเปิดประตูเพื่อความร่วมมือระหว่างไทย – ซาอุดีอาระเบีย ในการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์อันดีของสองประเทศ และคาดว่าจะสามารถขยายการลงทุนในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต